โดยนายศริชัย ยอมรับสารภาพว่า โมโหที่น้องนุ่น พูดถึงแฟนเก่าของตนเอง จึงมีปากเสียงกัน ก่อนจะทำร้ายร่างกายตามในคลิป แต่น้องนุ่น ยังไม่ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ หลังจากพาตัวขึ้นรถกลับบ้าน มีการทำร้ายร่างกายกันอีกรอบ  โดยมีการใช้อิฐทุบหัวก่อนจะเสียชีวิต จากนั้นรุ่งเช้าที่นำศพใส่รถไปเผาอำพรางในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี  โดยตลอดเวลาการก่อเหตุมีลูกอยู่ด้วยตลอด

และหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรม ในคืนวันที่ 18 ก.พ. วันต่อมา (19 ก.พ.) นายศิริชัย ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด ว่า น้องนุ่นหายตัวไป โดยอ้างว่า เวลาประมาณตี 3 หลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อน มีปากเสียงกัน ก่อนน้องนุ่นจะลงจากรถแล้วขึ้นแท็กซี่ไป โดยไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าจะเกิดอันตราย จึงมาแจ้งความไว้ เพื่อจะได้ดำเนินการติดต่อศูนย์โทรศัพท์เพื่อช่วยตามหาตัว พร้อมกับระบุว่า น่าจะอยู่ที่ฉะเชิงเทรา เนื่องจาก สัญญาณ GPS สุดท้ายอยู่ที่นั่น 

นายศิริชัย ยังอ้างว่า อยากให้น้องนุ่นกลับมา ขอให้เห็นแก่ลูก เพราะเวลาทะเลาะกัน น้องนุ่นก็จะออกจากบ้านไปแบบนี้เสมอขณะที่ แม่ของน้องนุ่น และญาติ ต่างสงสัยว่าการหายตัวไปของน้องนุ่น นายศิริชัย อาจมีส่วนรู้เห็นเพราะที่ผ่านมา มักทำร้ายร่างกายน้องนุ่น เป็นประจำ

โดยญาติของ น้องนุ่น ได้เปิดแชตที่นายศิริชัย พยายามแก้ต่างให้ตัวเอง หลังภรรยาหายตัวไป โดยบอกกับญาติว่าภรรยาชอบแอบหนีไปทำงานเอ็นเตอร์เทนที่ปอยเปต กัมพูชา ซึ่งญาติๆ ไม่เชื่อ ถ้าทำแบบนั้นจริงคงรวยนานแล้ว

ขณะที่นายศิริชัย ได้โต้แย้งว่า ก่อนจะปรักปรำให้ดูดีๆ ก่อน ตำรวจสอบละเอียดทุกอย่าง แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็จำนนด้วยหลักฐาน และ ยอมเปิดปากสารภาพในที่สุด